Life is not for happiness, and Never
คุณจะทำยังไงเมื่อวันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมา พบกับความจริงที่ว่า…
ชีวิตไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้คุณมีความสุข!
ท่านและผมมักถูกสั่งสอนมาโดยตลอดจากใครหลายๆคนว่า ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยความสุข ความสุขมันอยู่แค่ในอากาศเท่านั้นเอง ไปคว้ามันมาให้ได้ เราทุกคนจึงติดกับดัก “กับดักการแสวงหาความสุข” และรังเกียจความทุกข์ อะไรที่ทุกยากลำบากเราเลือกที่จะหนีมันเอาไว้ก่อน
ทุกข์ ( Suffering )
ทุกข์ คำๆนี้เราๆท่านๆ ย่อมเข้าใจและซึ้งในความหมายของมันเป็นอย่างดี ทุกข์ มีที่มาจากคำว่า ทุกขา ในพระบาลี ซึ่งอันแปลได้ว่า…
สภาวะที่ทนอยู่ได้ยาก ลำบากกาย ลำบากใจ
สังเกตุไหมครับว่า เราทุกคนนั้นมักจะสัมผัสความทุกข์ ในชีวิตมากกว่าความสุขกายสบายใจเสมอ แต่เราก็มักจะลืมหลงลืมไปเสมอ และก็กลับมาทุกข์ใหม่ สุขใหม่ซ้ำซากๆ ไปวนไปอย่างนี้ยาวนานนนนนนนนนนนน สิ้นกัปสิ้นกาล~
จนเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า…
“สุดท้ายแล้วเราเกิดมามีชีวิตไปเพื่ออะไรกัน?”
คำถามนี้ผมเฝ้าถามตัวเองตลอดมา ตั้งแต่จำความได้และรู้สึกว่าชีวิตผมนั้นช่างไร้จุดหมายซะจริงๆ แต่ถึงจะเฝ้าถามตัวเองมานานแค่ไหนก็ยังไม่ได้คำตอบซะทีว่า มันคืออะไรกันแน่?
เกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง อย่างนั้นเหรอ??? และสุดท้ายมันก็ติดตัวไปกับผมไม่ได้อยู่ดี ใช่ไหมครับ^^
“ในที่สุดคำตอบที่ตามหาก็อยู่ในที่ๆผมไม่เคยคิดจะมองหาด้วยซ้ำ”
จุดหมายของชีวิตอาจจะไม่ได้มีใครมาบอกกับเราตรงๆ ว่าเรานั้นเกิดมาเพื่ออะไร ดำรงอยู่ไปเพื่ออะไร และจะแตกดับไปเพื่ออะไร
ในวัยเด็กนั้นโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งที่ผมเคยศึกษา เสมอเหมือนบ้านหลังที่ 2 โรงเรียนอัสสัมชัญ นครราชสีมา มีเพลงประจำโรงเรียนที่มักจะเปิดเสมอเพื่อเรียกรวมแถว โดยมีเนื้อท่อนหนึ่งที่ผมจำติดใจมาจนถึงทุกวันนี้
“จุดหมายของชีวิต คือ การรู้จักสัจธรรม และ
การเข้าถึงธรรมเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิต”
เพียงท่อนฮุคสั้นๆเพียงเท่านี้ ที่ผมฟังมาตลอด เกือบ 10 ปี ในวัยเด็ก ทำให้ผมได้มาเข้าใจในความหมาย ก็ในวันที่ผมพร้อมจะเข้าใจ
คำถามต่อมาแล้วสัจธรรมที่ว่านั้น คือ อะไร?
แม้ผมจะเรียนในโรงเรียนที่ก่อตั้งโดยคณะนักบวชในศาสนาคริสต์ แต่แน่นอนว่าผมก็ยังเป็นชาวพุทธ อยู่อย่างแน่นอนครับ แต่นั้นยิ่งเป็นการดีซะอีกที่ทำให้ผมได้มองเห็นมุมมองกว้างๆ ในแต่ละศาสนา และเกิดแนวคิดขึ้นมาว่าจริงๆ แล้วในโลกใบนี้ อาจจะไม่ได้มีศาสนาจริงๆ คงมีแต่ผู้ที่ทำงานวิจัยเพื่อค้นพบความจริงแท้ของธรรมชาติ กฎของโลกใบนี้ ในมุมมองความคิด คำศัพท์ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อจุดหมายเดียว
และผมก็ได้พบว่า อริยสัจ หรือ ความจริงแท้ คือ จุดหมายของชีวิต
แม้เราจะเคยเรียนเรื่อง อริยสัจ 4 กันมามากมายแค่ไหนก็ตาม แต่ความจริงอันประเสริฐทั้ง 4 ข้อนี้ไม่อาจทำความเข้าใจได้ด้วยการอ่าน การฟังอย่างผ่านๆเท่านั้น เพราะพระพุทธทรงตรัสอย่างชัดเจนว่า “นี้เป็นธรรมอันสูงสุดแห่งการตรัสรู้ในครั้งนี้” เพราะฉะนั้นจะกล่าวว่าเป็นของยากก็ไม่ได้ เป็นของง่ายก็ไม่เชิง
ในอริยสัจทั้ง 4 ข้อ ทุกข์ คือ สิ่งที่ต้องรู้จักให้ดีที่สุด เพราะนี่แหละครับบ่อเกิดแห่งชีวิต
อริยสัจข้อที่ 1 ทุกข์
ความจริงข้อนี้ กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า “ชีวิตมนุษย์เกิดมาเพื่อพบ ประสบกับความทุกข์” มองทุกข์ในอีกแง่มุมหนึ่ง ก็คือ ทุกข์ คือ ปัญหา
ปัญหาที่ต้องการ การแก้ไข ปัญหาที่ต้องการ คำตอบ
ในมุมมองของผมแล้วนั้นผมมองว่า เราสามารถแสดงทุกข์ได้ผ่าน
Data Visualization โดยความทุกข์ ในแต่ละวันเทียบได้กับ bar graph ในแต่ละแท่ง หน้าที่ของเราไม่มีอะไรมากครับ
1. รักษาระดับของความทุกข์ให้คงที่เข้าไว้
2. พยายามลดให้กราฟนี้เป็น 0 ให้จงได้
แค่นั้นเองครับ ^^
ความคิดที่แวบเข้ามาในหัว คือ “แต่ว่ามันไม่ง่ายนะ” ใช่ครับมันไม่ง่าย เพราะแค่เราเข้าใจว่าชีวิตต้องมีความสุข ชีวิตต้องแสวงหาความสุขแค่นั้นมันก็ผิดแล้วครับ
เพราะหน้าที่เราคือ ลดความทุกข์ หรือ กำจัดให้หมด
แต่ถ้าเรายิ่งแสวงหาความสุขมากขึ้นเท่าไหร่ และเราเชื่อว่ากฎธรรมชาติทำงานอย่างเที่ยงตรง ( fair rule ) นั้นแปลว่า เมื่อความสุขหมดระยะเวลาให้ผล มันจะต้องแปรเปลี่ยนไปเป็นความทุกข์ ( เพราะเป็นของคู่ขั้วตรงข้ามกัน ) และแน่นอนครับแทนที่กราฟเราจะลดลง มันกลับต้องเพิ่มขึ้นตามปัจจัยการคำนวนที่เปลี่ยนแปลงไป
ดังนั้นแล้ว ที่กล่าวมาทั้งหมดผมพอสรุป เป็นธรรมประจำใจได้ว่า…
“ชีวิตมนุษย์นั้นไม่ได้สร้างและออกแบบมาเพื่อความสุข
แต่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เราพบเจอกับความทุกข์
ได้เข้าใจในทุกข์
ได้พบสาเหตุแห่งทุกข์
ได้คิดว่าถ้าไม่มีทุกข์จะเป็นอย่างไร
และสุดท้ายหาวิธีการยับยั้งทุกข์ ไม่ให้เกิดขึ้นมาได้อีก”
ถ้าตอนนี้คุณกำลังต่อสู้กับความทุกข์ยากอยู่นั้น ผมขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณมาถูกทางแล้ว แล้วถ้าคุณยังไม่ยอมแพ้ วันหนึ่งวิธีการจะต้องถูกเผยต่อคุณอย่างแน่นอนครับ
ขอให้ทุกท่านมีศรัทธาในสิ่งที่ตัวเองเชื่อครับ
“แม่น้ำทุกสายสุดท้ายแล้วย่อมไหลลงสู่มหาสมุทรเดียวกัน”
สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ,
Ada Kaminkure